Phoom & Rocky - คู่รักชายไทยกับงานจดทะเบียนหวานอบอุ่น ณ มหานครนิวยอร์ค

บอร์ด ความรัก,คู่รักชายไทยกับงานจดทะเบียนหวานอบอุ่นณมหานครนิวยอร์ค ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย DudeAdamทำเอาใครหลายคนอิจฉาและยิ้มหวานไปกับความน่ารักของงานแต่งงานสุดชื่นมื่นสองหนุ่มไทยอย่าง "ภูมิ" และ "ร็อคกี้" ไม่น้อย เมื่อภาพบรรยากาศงานแต่งได้เผยแพร่ออกมาทาง Social Media และเกิดการแชร์อย่างหนักมาก งานนี้ DudeAdam จึงไม่รอช้า ที่จะเข้าไปขอสัมภาษณ์ทั้งคู่ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอยากให้ทั้งสองท่านแนะนำตัวกันซักหน่อยครับ ว่าชื่ออะไรกัน แล้วไปอยู่ต่างประเทศกันแบบนี้ มีชื่อต่างประเทศมั้ยเอ่ย ^^ชื่อ ร็อกกี้ และ ภูมิ ครับ ไม่มีชื่อเล่นที่ต่างประเทศครับ ทุกๆ คนที่นี่เรียกตามนี้เลย ^^เรื่องราวความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ / เจอกันที่ไหน / ใครจีบใครก่อนพอดีภูมิเป็นเพื่อนของเพื่อนครับ พอดีวันนั้นภูมิเพิ่งมาจากเมืองไทย เพื่อนเลยพามากินข้าวที่ร้านอาหารที่ผมทำงานอยู่ พอผมเห็นภูมิครั้งแรกก็คิดว่าน่ารักดีครับ แต่ไม่ได้มีโอกาสคุยอะไรกันมากมาย พอช่วงหลังๆ ก็เริ่มได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะเราทั้งสองมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เลยมีการแลกเบอร์ แลกไลน์กันไว้บ้าง นัดกันไปเที่ยว ทานข้าวตามประสาครับ ส่วนคำถามที่ว่าใครจีบใครก่อน ผมขอบอกว่า "ภูมิจีบผมก่อนละกันครับ" เพราะภูมิเป็นคนขอไลน์ผมก่อน แต่เวลามีใครถามเขาจะไม่ยอมรับแล้วชอบบอกว่าผมเป็นคนจีบก่อนครับ ภูมิเขาขี้อาย 555แค่คำถามแรกก็ทำเอา Dude เขินมากซะแล้ว >,< เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยครับ ว่าทำไมถึงไปอยู่ที่ต่างประเทศกันได้ แล้วถึงตอนนี้ไปอยู่ที่นั่นกันนานหรือยัง / แล้วทำอะไรที่นั่นครับ (อาชีพ) ^^ตัวผม (ร็อกกี้) มี Visa Status เป็น Green card ครับ หรือเรียกว่าใบเขียวที่สามารถทำให้เราอยู่และทำงานที่อเมริกาได้ครับ ก็เลยตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่นี่ครับ ตอนนี้ผมทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารในนิวยอร์กครับ แล้วก็มีธุรกิจส่วนตัวเล็กๆนิดหน่อย ส่วนภูมิเขามาเรียนต่อครับการจดทะเบียนที่นั่น มีขึ้นตอนการดำเนินการอย่างไรครับ ลองเล่ารายละเอียดขั้นตอนให้ฟังได้มั้ยครับ ^^สำหรับขั้นตอนการจดทะเบียน ขั้นตอนแรกคือต้องไปที่ City Hall (ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไร ศาลากลางรึเปล่า?) เพื่อที่จะขอ Marriage License หรือใบอนุญาตแต่งงาน พอไปถึงที่ City Hall ก็ต้องโชว์ ID ของทั้งสองคน ใช้เป็น State ID หรือ Passport ก็ได้ครับหลังจากนั้นเราก็ต้องไปกรอกข้อมูลของทั้งสองฝ่ายออนไลน์ครับ ข้อมูลเช่นชื่อ นามสกุลจริง ชื่อพ่อแม่ ที่อยู่ สถานที่เกิด เขามีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ได้เลยตรงนั้นได้เลยครับ หรือถ้าไม่อยากจะเสียเวลามานั่งกรอกตรงนั้นก็สามารถกรอกมาเองจากบ้านทางออนไลน์แล้วนำหลักฐาน confirmation code มาโชว์เขาได้เลยครับ ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จก็รับบัตรคิวแล้วนั่งรอเขาเรียกครับ พอถึงคิวเขาก็จะเรียกเราไปเพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าทุกอย่างถูกต้อง ชำระเงินค่า license $35 แล้วเขาก็จะพิมพ์ license ออกมาให้เราเก็บไว้เพื่อใช้ในวันจดทะเบียนครับ แต่เขามีกฏว่าหลังจากได้ license ต้องรอ 24ชั่วโมงก่อนที่จะจดทะเบียนกันได้ครับส่วนในวันจดทะเบียนก็ไปที่เดิมเลยครับ ส่วนมากคนก็จะมาตอนเช้าๆกัน เพราะเขาไม่มีให้นัดคิวจดทะเบียนเหมือนในไทยนะครับ คู่ไหนรับบัตรคิวก่อนคู่นั้นก็ได้จดก่อน ปกติวันศุกร์เสาร์อาทิตย์จะยุ่งมาก บางครั้งคู่ที่ไปต้องรอคิวถึง 3 ชั่วโมงก็มี ของผมแต่งวันอังคารซึ่งโชคดีมากไม่ค่อยมีคนครับ ไปถามเขา เขาบอกว่ามีแค่สองคู่ก่อนหน้าผมเอง ส่วนขั้นตอนก็คล้ายๆเดิมครับคือ ก็คือต้องไปที่ Front desk เพื่อไปรับบัตรคิวแต่ที่เพิ่มมาอีกอย่างนึงก็คือต้องพาคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปมาด้วย 1 คนเพื่อไปเป็นพยานด้วยครับ ทั้งสามคน คือผม แฟน และพยานต้องโชว์ ID หรือ Passport ครับ หลังจากนั้นเขาก็จะให้บัตรคิวเรามา แล้วเราก็นั่งรอครับ ไม่นานเขาก็เรียกไปครับ พอไปถึงเราก็ต้องโชว์ marriage license ให้เขาดู เขาก็จะให้คู่บ่าวสาวและพยานเซ็นเอกสาร จากนั้นก็ชำระเงินค่าทำพิธีจดทะเบียน $25 ครับ พอเสร็จแล้วเราก็รอต่ออีกนิดหน่อยเพื่อให้เขามีเวลาร่างและพิมพ์ทะเบียนสมรสขึ้นมาครับ ประมาณ 5 นาทีเขาก็เรียกเข้าห้องทำพิธีแล้วครับพอบ่าวสาวและเพื่อนๆเข้าไปในห้องก็จะมีบาทหลวงหนึ่งคนทำพิธีให้เรา เราก็ต้องพูด I do, สวมแหวนให้กันและกัน และจูบตามพิธีที่เห็นในหนังฝรั่งเลยครับ ก่อนวันแต่งผมเองบอกว่าจะไม่ร้องไห้ แต่พอได้เข้าไปพิธีจริงๆ เขาจะบอกให้เรามองตาแฟนเรา แล้วทางบาทหลวงเขาจะพูดคำและประโยคที่ซึ้งมากๆครับ บวกกับบรรยากาศที่มีเพื่อนๆที่สนิทรายล้อมตอนนั้น ผมกับภูมินี่น้ำตาซึมเลยครับบรรยากาศมันบิ้วๆมากจริงๆ หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างเขาก็จะให้ Marriage Certificate หรือใบทะเบียนสมรสมาครับ ถือเป็นการเสร็จพิธีขอรายละเอียดสถานที่จัดงาน คอนเสป แนวคิด ครับ ว่าได้มาจากไหน ทำไมจึงเลือกจัดที่นี่สถานที่จัดงานเป็นร้าน Bakery เล็กๆน่ารักชื่อ “Maman” อยู่ใน Tribeca ครับ ที่เลือกที่นี่เพราะเป็นสไตล์ที่ผมและภูมิต้องการพอดีครับซึ่งคือแนววินเทจน่ารักๆครับ จะเห็นได้ว่าการตกแต่งภายในร้านจะมีความวินเทจสไตล์อเมริกัน บวกกับโทนสีอ่อนๆ ให้ความรู้สึก homy และ cozy มากครับๆ ขนาดของร้านก็พอแเหมาะสำหรับจำนวนของแขกด้วยครับ ส่วนเรื่องอาหารทางร้านจะมีการเสิร์ฟ Brunch ซึ่งก็มีขนมปังนมเนยต่างๆ มีโยเกิร์ต และมี sandwich จัดมาเป็นคอร์สๆให้เรารับประทานครับ ส่วนสำหรับเค้ก ผมสั่งเค้ก Cookie and Cream สอดไส้ White chocolate ตกแต่งเค้กเป็นแนว naked (เปลือย ไม่มี frosting) ดูแตกต่างไม่เหมือนกับเค้กแต่งงานทั่วไป ก็ให้ความรู้สึกหวานๆน่ารักไปอีกแบบครับมีความประทับใจอะไรในกันและกันครับ หากพูดข้อดีของอีกฝ่ายได้ คิดว่าอะไรเป็นสิ่งแรกที่นึกถึงร็อกกี้ : ถ้าให้เลือกอย่างนึงที่รู้สึกว่าประทับใจมากๆในตัวภูมิ ผมขอเลือกความซื่อสัตย์ครับ ความซื่อสัตย์ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่ารักเดียวใจเดียวอย่างเดียวนะครับ ตั้งแต่คบกันมานอกจากภูมิจะซื่อสัตย์ต่อผมแล้ว ภูมิยังเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อตัวเขาเอง ซื่อสัตย์ต่อเพื่อนและครอบครัวด้วย ซื่อสัตย์ต่อตัวเองหมายถึงเขารู้ว่าใจเขาต้องการอะไร เขามีเป้าหมายอะไรและต้องทำยังไงเพื่อที่จะได้สิ่งนั้นมา และเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับเพื่อนมากๆ เป็นคนที่มีความจริงใจ และคบกับเพื่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ แบบที่ผมไม่เคยเห็นในใครมาก่อนภูมิ : สิ่งที่ประทับใจในตัวร็อคกี้คือ เค้าเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่ดีมากๆ อดทนเวลาเรางี่เง่า ทั้งๆที่ต่างคนต่างใจร้อน แต่เค้าก็ยอมใจเย็นเพื่อเรา เวลามีปัญหาเค้าก็ยืนอยู่ข้างๆไม่ทิ้งเราไปไหน ตอนแรกๆก็มีหลายๆสิ่งที่ทำให้เราไม่มั่นใจในตัวเค้า แต่สุดท้ายเค้าก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เค้าเป็นคนที่เราสามารถฝากชีวิตไว้กับเค้าได้ครับตอนนี้กระแสการแต่งงานและรับบุตรบุญธรรมมาเลื้ยงกำลังเป็นที่แพร่หลาย เคยคุยกันมั้ยครับ เรื่องการมีลูกหรือบุตรบุญธรรมสำหรับเรื่องบุตรบุญธรรม ก็มีคุยๆกันบ้าง ถ้าถึงเวลาแล้วทุกอย่างพร้อม อาจจะให้พี่สาวของภูมิเป็นคนอุ้มท้องให้ แต่ตอนนี้ อยากสร้างความพร้อมของครอบครัวให้มั่นคงก่อนครับหลายคนในเพจ Dude adam มีปัญหาเกี่ยวกับการเปิดเผยความจริงว่าเป็นเกย์กับครอบครัว คุณทั้งสองคนเคยมีประสบการณ์แบบนั้นมั้ยครับ / ตอนนั้นแก้ปัญหาอย่างไร แล้วมีอะไรอยากแนะนำน้องๆในเพจมั้ยครับผมเพิ่งมาบอกแม่ว่าชอบผู้ชายตอนที่คบกับภูมิเหมือนกันครับ เพราะก่อนหน้านี่ผมก็คบแต่ผู้หญิง ตอนแรกๆบอกแม่ ท่านก็ช็อคเหมือนกัน มีต่อว่านิดๆหน่อยๆ แต่สุดท้าย พอมาเจอกับภูมิ ซึ่งเขานิสัยดีและเข้ากับผู้ใหญ่เก่ง เลยเอาชนะใจแม่ผมได้ครับส่วนภูมิเองเขาก็เพิ่งบอกแม่หลังจากแต่งงาน ว่าเขาแต่งงานกับผู้ชาย เพราะตอนแรกแม่เขาคิดว่าแต่งงานกับผู้หญิง ซึ่งแม่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่าเป็นคนดี ไม่ติดยา แค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ก็อยากฝากบอกกับทุกคนที่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่ ก็อยากให้เปิดอกคุยกับพ่อแม่ตรงๆ อย่าปิดบัง ถ้าเราเป็นคนดี ไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงเขาจะดุ จะหัวโบราณแค่ไหน อาจมีโกรธบ้าง เสียใจบ้าง แต่สุดท้ายเขาก็จะรับในสิ่งที่เราเป็นได้แน่นอนครับใครหลายคนมองว่า รักแท้ในเพศทางเลือกเป็นไปได้ยาก คุณสองคนคิดอย่างไรครับถามว่ายากไหม ก็ยากนะครับ เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีมันไปเร็วมาก ทำให้คนติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น สิ่งล่อตาล่อใจมีเยอะ และนำพาไปสู่การมีเซ็กส์ได้ง่ายขึ้น ด้วยคนที่มีรสนิยมทางเพศอย่างเราแล้ว ถ้าจิตใจไม่หนักแน่นพอ ก็อาจทำให้ไปทำอะไรที่ไม่ดีได้ง่ายๆ ทำให้หาคนที่รักและเข้าใจจริงๆได้ยาก แต่ผมก็เชื่อว่า เมื่อเราเจอใครคนหนึ่งที่รู้สึกว่าเขาใช่แล้ว เราก็พร้อมที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ และก้าวเดินไปพร้อมกับเขาได้อย่างแน่นอนครับฝากอะไรถึงคนที่หมดหวังในความรักหน่อยครับผมเชื่อในพรหมลิขิตนะครับ บางครั้งความรักเราอาจไม่ต้องดิ้นรนตามหามัน ทำตัวเองให้มีค่า ดูแลตัวเองดีๆ ตั้งใจทำงาน และเป็นคนดี แล้วจะมีคนดีๆ ความรักดีๆเข้ามา โดยที่เราไม่ต้องดิ้นรนไปหามันเลยครับสุดท้ายนี้ หากมีแฟนๆ อยากติดตามทั้งสองคน สามารถติดตามได้ทางช่องทางไหนบ้างครับ สามารถติดตามได้ทาง IG : Tribhum_mas และ rockioz ได้เลยครับhttps://www.instagram.com/tribhum_mas/ ส่วนนี่เป็นภาพบรรยายกาศในวันงานครับ ช่างหวานชื่นน่ารัก สารภาพว่าบทความนี้เป็นบทความที่ Dude เขียนไปยิ้มไปตลอด คนความรักนี่มันช่างน่ารักดีนะครับ ว่าไปแล้วก็อยากมีบ้าง ซักคน :P ติดตามข่าวสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/DudeAdamTH