โควิดคิดอะไร (เรื่องเล่า)

บอร์ด ความรัก,โควิดคิดอะไรเรื่องเล่า ประสบการณ์ช.. เนื้อหาโดย อักษราลัย#โควิดคิดอะไร "ลูกผมอยากกินน้ำแดง ผมไม่มีเงินเลยครับ เฮียช่วยโอนให้ผมสักพันนึง เดี๋ยวได้เงินเยียวยาแล้วผมจะคืนให้"          สามีโทรศัพท์มาบอกฉันว่ามีคนขอเงินพันนึง แล้วแต่คุณจะเห็นสมควร ขณะฉันขับรถกลับเข้าบ้าน พร้อมกับเล่าว่า คนนี้คือคนที่เคยมาขอสมัครงานขับรถกับเรา แต่เราไม่ได้รับเข้าทำงาน เพราะไม่แน่ใจเรื่องพฤติกรรมการดื่มของเขา และให้เบอร์โทรศัพท์มาให้โทรกลับไป สองจิตสองใจว่าจะช่วยดีไหม เมื่อวานก็โอนเงินช่วยโครงการจุดตะเกียงไป 500 บาท ตามกำลังทรัพย์ ทั้งที่รู้ว่าสถานการณ์ตนเองก็กำลังวิกฤติ           เดินไปต้มมาม่ากิน ระหว่างกินก็แว่บขึ้นมาว่าเขาคงหิวเหมือนกัน เลยโทรไป เขาไม่พูดอะไร ฉันก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน เลยพูดไปว่า "พันนึงคงให้ไม่ได้หรอกนะ แต่จะโอนให้ 300 เอาไปกินข้าวก็แล้วกัน แล้วไม่ต้องคืนหรอก ให้ ส่งเลขบัญชีมาเลย" เขากล่าวขอบคุณแล้ววางสายไป มาม่าในชามที่เหลือ ขื่น และติดคอขึ้นมาอย่างพูดไม่ถูก ฝืนกินไปอีก 2-3 คำ ก็ยกไปเททิ้ง           เริ่มพะวงมากขึ้นกับสถานการณ์ปัจจุบัน จากความลำบากรอบตัวที่พบเห็น ทั้งของตัวเองที่ได้รับผลกระทบ 2 ต่อ จากงานขนส่งที่ติดเคอร์ฟิว และงานขายไม้ยางพาราที่ผลัดกันปิดประเทศระหว่างจีนกับไทย          ภาคธุรกิจหลายส่วนพังระเนระนาดจากภาวะโรคติดต่อและการบริหารสถานการณ์ควบคุมโรค หลายคนถึงขั้น 'ล้มละลาย' การดำเนินการควบคุมโรคในยามนี้ ประเทศเราได้รับผลดี ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังล่มสลายเราจะเป็นยังไงกันต่อไป น่าหวั่นวิตกมาก          การช่วยเหลือแค่ค่าไฟ แจกหน้ากากมาที่บ้าน สำหรับฉันไม่เพียงพอ เคยคิดอยากให้เว้นการชำระหนี้การผ่อนต่างๆ ออกไปสัก 6 เดือนทั้งต้นและดอก ก็เป็นแค่ความฝัน รัฐบาลคงสั่งนายธนาคารต่างๆ ไม่ได้ ในเมื่อรายได้หดหายไปเยอะ แต่ภาวะหนี้เท่าเดิม หมุนหามาจ่ายจนเครียด บางวันถึงขั้นอาเจียน ไม่รู้ว่าความทุกข์ยากของเราเหล่าผู้ประกอบการหลายต่อหลายคน เราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร? จากหลายประสบการณ์ของชีวิต ก็รู้ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน รัฐบาลอาจจะช่วยในการปล่อยกู้ให้มากขึ้น เพื่อพยุงไม่ให้กิจการล้ม แต่การกู้มากขึ้นคือการเพิ่มภาระที่มากขึ้น การเสริมสภาพคล่องที่ได้มา คนที่ได้รับประโยชน์คือลูกจ้าง ที่เราหาเงินมาจ่ายเขาได้ คือธนาคาร ที่เราหาเงินมาชำระหนี้ได้ แต่ตัวเจ้าของกิจการนั้นเล่ากลับต้องเพิ่มภาระบนหลังมากขึ้นไปอีก จากที่แบกบนหลังอยู่เดิมที่หนักอยู่แล้ว ก็เพิ่มน้ำหนักในการแบกหามมากขึ้นไปอีก รอวันทรุดลง ล้มลง จะแค่ล้มลง หรือขาดใจไปเลย ใครเลยจะตอบได้ โควิดคือโรคร้ายที่มาทำลายทั้งกาย ใจ และเศรษฐกิจ คนที่มีต้นทุนเดิมสูงร่ำรวยมีฐานะอาจไม่รู้สึก เพราะทั้งชีวิตอาจไม่เคยรู้ ไม่เคยสัมผัสเลยว่า 'ความจนเป็นอย่างไร'อักษราลัย๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓