เป็นแบบนี้จริงไหม??ย้อนกลับมาดูพฤติกรรมตัวเองที่ทำให้ผู้ชายหนี

บอร์ด ความรัก,เป็นแบบนี้จริงไหมย้อนกลับมาดูพฤติกรรมตัวเองที่ทำให้ผู้ชายหนี ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย ลูกสาวอบตภาพประกอยจากอินเตอร์เนตขอเท้าความก่อนนะคะ เมื่อประมาณ 1 ปีกว่าๆที่ผ่านมา เราเกือบจะได้คบกับหนุ่มคนนึง ซึ่งเป็นหนุ่มที่อยู่ทางไกลนะคะ แต่เราเจอกันแล้ว 2-3รอบ แบบที่เจอตัวจริงๆกัน ไปเดทกัน แล้วเค้าก็เทียวไล้เทียวขื่อ อยากจะเป็นแฟนกับเรามากๆ แต่ไอ้ตัวเรานี่สิคะเล่นตัวไปมา ใจจริงก็เริ่มชอบแล้ว แต่ด้วยอาการปากกับใจไม่ตรงกันค่ะ ก็ยังไปบอกเค้าว่า นี่ระหว่างที่เราคุยกันอย่างนี้เธอจะคุยกับใครก็ได้ ชั้นจะคุยกับใครก็ได้เหมือนกันนะ เพราะเรายังไม่ได้ตกลงปลงใจจะเป็นแฟนกับใคร แต่ผู้ชายเค้าบอกว่า เค้าทำแบบนั้นไม่ได้ เวลาเค้าศึกษาใครเค้าจะคุยทีละคน แล้วเค้าก็บอกว่า งั้นเราเลิกคุยกันเถอะ เพราะชั้นไม่อยากเจ็บเพราะเธอ ตายละหว่าาา ตอนนั้นที่พูดไปก็พูดไปยังงั้น ไม่ได้จะทำจริง แต่ผู้ชายเค้าจะไปละค่ะ เลยสารภาพความในใจพร้อมร้องไห้แบไต๋ไปหมดว่า อย่าไปเลยนะ ชั้นพูดไปอย่างนั้น ชั้นขอโทษ ต่อแต่นี้ชั้นจะคุยกับเธอแค่คนเดียว....เรื่องราวมันก็เริ่มที่ตรงนี้ค่ะหลังจากเราเคลียร์กันเข้าใจเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับมาคุยกัน และมุ้งมิ้งกว่าเดิมมากกกกกกกกกกกก เพราะคราวนี้เราก็สารภาพความในใจเราไปแล้วไง เค้าก็รู้แล้วว่าเราชอบ เค้าก็บอกว่าอยากขอเราเป็นแฟน แต่ตอนนั้นคุยผ่านกล้อง เราก็บอกว่า ไม่เอาหรอกนะมาขอเป็นแฟนผ่านกล้อง ต้องขอต่อหน้าเท่านั้นแล้วระหว่างนั้นเราทั้งคู่ก็คุยกันทุกวัน ทั้งวัน เปิดกล้องกันทุกคืน แต่เราจะมาบรรยายพฤติกรรมของเราให้ผู้ชายเค้าสุดทน มีดังนี้1. ขี้งอน-จริงๆมันก็เป็นปกติของผู้หญิงนะคะ แต่ตอนนั้นเราคิดว่า เค้าเป็นลูกไก่ในกำมือแล้ว ไงเค้าก็ชอบชั้น เพราะฉะนั้น ชั้นจะทำอะไรก็ได้ เรามีเปลี่ยนรูปในFB แล้วก็มีแคปชั่นหวานๆ ซึ่งจริงๆจะสื่อถึงเค้าค่ะ แต่ว่ารูปนั้นเค้าไม่มากดlike เราก็แบบไรว่ะ ทำไมไม่กดเพราะชั้นลงรูปนี้ที่เธอเคยถ่ายชั้นว่าแล้วแคปชั่นหวานขนาดนี้ เราก็ไปเหวี่ยงใส่เลยค่าาาา ทำไมเธอไม่กดไลค์ชั้นรูปนี้อ่ะ นี่ชั้นลงเพราะเธอเลยนะ เค้าก็บอกว่า ไม่ทันเห็นจริงๆงานยุ่ง แต่สุดท้ายเค้าก็ไปกดนะคะ หรือ เค้าเคยโทรมาหาเราแล้วเราไม่ทันได้รับ แล้วเราโทรกลับเป็น10สาย เค้าก็ไม่รับ เพราะเค้านอนไปแล้ว เราก็งอนค่ะ ไม่ยอมทักเค้าตอนเช้า เค้าถามอะไรมาก็ตอบอึนๆ โดยเค้าก็ถามว่า เป็นอะไรรึเปล่า เราก็ตอบไปว่าไม่เป็นอะไร แต่จริงๆยังงอน สุดท้าย เราก็บอกทำไมไม่ง้อละ ชั้นงอนอยู่นะ แล้วเค้าก็บอกว่า อ้าวไหนบอกว่าไม่เป็นไร ชั้นถามเธอละนะ ว่าเป็นอะไรมั้ย งั้นเธอโกหกชั้นทำไมว่าไม่เป็นไร มีอะไรก็พูดสิ สุดท้ายเค้าเป็นฝ่ายโกรธเราแล้วเงียบไปนานหลายชั่วโมงจากเหตุการณ์ข้างบน เวลาเค้างอน แทนที่เราจะให้เวลาเค้า เรากลับ จิกๆๆๆๆๆๆ เธอไม่ตอบชั้นในLine ชั้นก็ส่งข้อความทาง Whatsapp แทน และทุกๆสื่อช่องทาง แล้วก็ตำหนิว่า ทำไมเวลาโกรธ ต้องหายไปแบบนี้ด้วย มาคุยกันให้รู้เรื่องสิ ซึ่งพอย้อนกลับไปดูตัวเองตอนนั้น มันเป็นอะไรที่บ้ามากค่ะ3. ตื้อตอนช่วงที่เราคุยกัน เค้าจะมาเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนเค้าอีกคน(เมื่อปีก่อนนะคะ) มากันแค่สองคน ซึ่งเค้าก็บอกเราแล้วว่า ไม่แน่ใจจะเจอกันได้มั้ย เพราะเค้าห่วงความรู้สึกเพื่อนเค้า ว่าถ้ามีเราไปด้วย เพื่อนเค้าอาจกระอักกระอ่วนใจ แต่เราก็ตื้อๆๆๆๆๆ ไม่เป็นไร ชั้นไปด้วยนะ อยากไปกับเธอ ส่วนเพื่อนเธอชั้นเข้าด้วยได้อยู่แล้ว แต่พอมานั่งนึกก็แบบ เฮ้ย นั่นเพื่อนเค้าคบมาหลายสิบปี เป็นเพื่อนสนิทมากคนนึงของเค้า แล้วผู้ชายน่ะ เพื่อนมักสำคัญสุด เราเป็นใครมาแค่ไม่กี่เดือน แล้วก็ตื้อพูดทุกวี่วันว่าขอไปด้วย มานึกตอนนี้ผู้ชายเค้าคงรำคาญเราจริงๆแหละ4.ดราม่าในหลายๆทีเวลาเปิดกล้องคุยกัน บางทีเราชอบคิดถึงสิ่งที่มันยังไม่เกิด คือคิดไปว่าเนี่ย ถ้าเป็นแฟนกันแล้วอยู่ไกลกันขนาดนี้จะทำยังไง อยากกอดก็ทำไมได้ บลาๆ คิดในหัวอยู่คนเดียว แล้วก็ร้องไห้ต่อหน้าเค้า โดยที่เค้ายังไม่รู้เลยว่าเราคิดอะไร เพราะเราก็ไม่ยอมบอก ได้แต่ร้องไห้หน้าเค้า จนทำให้เค้าเซ็ง วันๆนึงเปิดกล้องเจอกันแค่ไม่กี่สิบนาที อินี่มาร้องไห้บ้าบอไรไม่รู้ แทนที่จะคุยกันแบบแฮปปี้ๆ5. บังคับ(ทางอ้อม)พ่อหนุ่มเราเป็นคนที่ชอบปาร์ตี้กับเพื่อนๆมาก อาทิตย์นึง 2-3ครั้ง ซึ่งเราไม่ชอบ เพราะเรากลัวค่ะว่าง่ายๆ กลัวเค้าไปเจอสาวๆในที่เที่ยวแล้วไปจีบสาวคนใหม่ เวลาเค้าไปเที่ยว เค้าจะบอกเรานะ แต่เราจะพิมพ์หรือตอบกลับแบบไม่พอใจ พอเวลาเค้ากลับเค้าก็จะบอกเราว่าถึงบ้านแล้ว แต่ เราเองก็ไม่ตอบ เพราะงอนอยู่ คิดว่าการที่เราทำแบบนี้ อาจทำให้เค้าเปลี่ยนใจไม่ไปเที่ยวบ้างทางอ้อม ให้เค้ารู้สึกว่าถ้าเราไม่พอใจเค้าคงจะเปลี่ยนใจไม่ไป6. ตามติดแจเรามักจะบอกว่า คืนนี้เปิดกล้องได้มั้ยๆๆๆ คือจริงๆเราแค่อยากเห็นหน้าเค้าอ่ะเนอะ ด้วยความคิดถึง แต่ด้วยงานของเค้าต้องตื่นเช้ามาก และเวลาบ้านเค้าเร็วกว่าไทย 1 ชม มันก็แปลว่าเค้าต้องนอนดึกขึ้น ส่วนใหญ่เราจะนอนพร้อมๆกัน แต่เราลืมนึกไปว่ามันทำให้เค้านอนดึกกว่าเรา แถมต้องตื่นเช้ากว่าเรา แถมงานเค้าก็หนักกว่าเรา แปลว่าการมีเรา มันทำให้เค้าต้องเหนื่อยและลำบากขึ้น แทนที่เราจะไปทำอะไรในชีวิตส่วนตัวเราบ้าง แต่กลายเป็นว่าตอนนั้นทั้งชีวิตเราคือเค้า จากปกติเราต้องไปออกกำลังกายตอนค่ำ เราก็เลิก เพราะอยากรีบกลับมาเปิดกล้องกับเค้าหรือบางทีก็ขออ้อนๆเค้าว่าขอนอนเปิดกล้องทั้งคืน เพราะอยากเห็นหน้าเค้าตอนหลับ แต่หารู้ไม่ว่า เดือนนั้นค่าเน็ตเค้าปาไปเกือบหมื่น เพราะwifiในบ้านเค้าเสียพอดี แต่เค้าไม่ได้บอกเรา เราก็ดันไปคะยั้นคะยออยากเปิดกล้องนอนทั้งคืนใส่เค้าแล้วสุดท้ายเค้ามาหาเราที่ไทย เพื่อบอกเราว่า ชั้นคงคบกับเธอไม่ได้ เพราะ เค้ารู้สึกอึดอัดมากตลอด2-3เดือน ทำให้เค้าไม่เป็นตัวของตัวเองสุดท้าย เราก็แยกย้ายจากกันได้ โดยที่ แค่คำว่าเป็นเพื่อน เราก็เป็นด้วยกันไม่ได้ค่ะ คือ เรายอมรรับตอนนั้นเราก็โกรธเค้ามาก แต่สุดท้าย เราก็เข้าใจแล้วว่าเป็นเพราะเราเองด้วย จากความงี่เง่าทั้งหมดของเรา ที่เราบอกมาข้างต้น ก็ไม่แปลกที่ผู้ชายเค้าจะเทเรา ขนาดตัวเราเองมาย้อนและทบทวนสิ่งที่เราเคยทำไว้ เรายังรู้สึกรังเกียจตัวเองเลย ก็ต้องขอขอบคุณเค้าในความอดทนที่มีให้มาหลายเดือนกับเราค่ะ