คนไร้หน้า ที่มีนามว่า "เรย์มอนด์"

บอร์ด ความรัก,คนไร้หน้าที่มีนามว่าquotเรย์มอนด์ ประสบการณ์ช.. แปลโดย ผู้หญิงชอบเล่น            ในปี 50 - 60 ยามค่ำคืนที่เพนซิลเวเนียตะวันตก มีตำนานเล่าขานอันน่ากลัวเกี่ยวกับชายไร้หน้าที่จะออกมาไล่ต้อนผู้คนในยามค่ำคืน ว่ากันว่า ตัวของเขาเรืองแสงเหมือนสัตว์ประหลาด เขาไม่มีดวงตา จมูก หรืออื่น ๆ บนใบตาละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แต่กลับวิ่งเร็วเหมือนสัตว์ป่า มีหลายคนเห็นกับตาและยืนยันว่า มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าสยองขวัญ แต่เป็นตำนานที่มีอยู่จริง ๆ ! มีคนซุบซิบเล่าลือถึงปีศาจไร้หน้าตนนี้อย่างกว้างขวาง ผู้คนที่ต้องเดินทางกลางคืนต่างรู้สึกขนลุกทุกครั้งว่าอาจจะเจอกับปีศาจตนนั้น      แต่เบื้องหลังเรื่องเล่าสยองขวัญนั้นมันช่างน่าเศร้า ปีศาจไร้หน้าที่ผู้คนทั้งเมืองหวาดกลัวนั้นมีตัวตนอยู่จริง ๆ ชื่อจริงของเขาคือ " เรย์มอนด์ โรบินสัน " ในปี 1919 ตอนที่เรย์อายุ 8 ขวบ เขาเป็นเด็กแข็งแรงสดใส และยิ้มกว้าง ด้วยความซุกซนตามประสา ทำให้วันนึงเขาปีนขึ้นไปบนเสาสูง เพื่อจะดูรังนกที่อยู่บนนั้น เขาเอื้อมมือไปยังรังนกเล็ก ๆ และสัมผัสมัน ทันใดนั้นตัวเขาก็สะดุ้งอย่างแรงด้วยแรงช็อตกระชากจากกระแสไฟ 11,000 โวลต์ มันช็อตจนร่างเขากระเด็นลอยละลิ่ว ล่วงกระแทกสู่พื้นดินอย่างแรง ธรรมดาเขาควรจะตาย ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงตาย มันยากมาก ๆ ที่จะมีใครยังรอดชีวิตอยู่จากการโดนไฟฟ้าขนาดนี้ แต่พระเจ้าคงยังไม่ต้องการตัวเด็กน้อย เขาไม่ตายแต่ก็บาดเจ็บสาหัส ดวงตา รูจมูก และผิวหนังบนใบหน้าถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อตจนไหม้หลอมละลายไปทั้งหมด กระนั้นเขาก็ยังไม่ตาย ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย       เขายังมีชีวิตอยู่อีก 65 ปีต่อมา เขามีชีวิตอยู่ และเรียนรู้ว่าบางครั้งโลกก็ไม่ได้ใจดีกับเขานัก ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุและหายดี เขากลายเป็นที่น่ารังเกียจและหวาดกลัวต่อผู้พบเห็น บางคนกรีดร้อง บางคนเกลียดชัง บางคนล้อเลียนหรือขว้างปาเขาด้วยก้อนหิน ทุกสิ่งสารพัดที่คนโชคร้ายคนนึงจะถูกกระทำ เรย์ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ เขาไม่ได้เลือกที่จะเป็น ความเจ็บปวดในร่างกายสู้ไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดในหัวใจที่เขาเจอ เขาจึงค่อย ๆ หายหน้าจากผู้คนและเร้นกายอยู่เพียงในบ้าน ไม่นานผู้คนก็ลืมเลือนเขา เหมือนกับว่าบนโลกนี้ไม่เคยมีเขาอยู่ในตอนกลางวันเขาอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน เขาทำเข็มขัด กระเป๋า พรมเช็ดเท้าและของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง       แต่หลังจากสูญเสียคนสำคัญในครอบครัวไป เพื่อทดแทนความอ้างว้าง และเปล่าโล่งในชีวิตที่เหลือ บางครั้งเขาจึงออกไปเดินเล่นยามค่ำคืน เขาเลือกที่จะออกกลางคืน เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความหวาดกลัวของผู้คนที่บังเอิญพบเจอเข้ากับเขา แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น         การออกไปเดินเล่นกลางคืนของเขานี่เอง ที่มันกลายเป็นที่มาของเรื่องเล่าตำนานน่าหวาดผวา คนไร้หน้า มนุษย์เรืองแสง " The Green Man " และอื่น ๆ เท่าที่พวกเขาจะสรรหาชื่อมาเรียกขานเพื่อสร้างความน่าสยดสยอง เรื่องของเรย์ถูกต่อเติมไปอีกมากมาย จนเขากลายเป็นภูติผีปีศาจตัวร้ายที่ออกมาไล่ล่าผู้คนที่ยังอยู่ด้านนอกยามกลางคืน มีทั้งว่าชายไร้หน้าทำร้ายผู้คน ลักพาตัว หรือทำเรื่องน่าขวัญผวาอื่น ๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงเรย์ไม่เคยทำแบบนั้นสักอย่าง แต่เพื่อให้เรื่องเล่าของตัวเองน่ากลัวที่สุด เป็นที่สนใจที่สุด จึงมีการแต่งเติมไปมากมายพิการ ดวงตามืดบอด และถูกผลักให้อยู่ในนามของปีศาจ ให้เป็นที่เกลียดชังแม้คนที่ไม่รู้จักหรือพบเจอ แค่คิดก็เศร้า แม้เขาจะกลายเป็นเรื่องร้ายและหลายคนทำสิ่งโหดร้ายต่อเขาเพียงเพราะฟังคำเล่าลือของใครหลายคน โลกอาจใจร้ายแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนึงเจอเข้ากับเขา พวกนั้นในตอนแรกก็ตื่นกลัว พากันวิ่งหนีคนละทิศละทาง บางคนก็เอาหินขว้างปาเขา        แต่เมื่อพวกวัยรุ่นค้นพบว่าเขาคือมมนุษย์ธรรมดาคนนึง ใครบางคนในกลุ่มก็เริ่มหยิบยื่นมิตรภาพให้เขา ต่อ ๆ มาเคียงข้างข่าวลือด้านน่ากลัวและชวนขวัญผวา ยังมีความเป็นจริงอีกข่าวกระจายออกไปว่าเขาเป็นแค่ชายโชคร้าย ที่ไม่เคยก่อพิษภัยหรืออันตรายกับใคร ๆ หลายคนจึงเริ่มใจดีกับเขามากขึ้น บางคนแวะทักทายเขา ซื้อบุหรี่ไปฝาก หรือบางคนก็ตั้งใจซื้อเบียร์ไปให้และชวนเขาพูดคุยเพราะรู้ว่าเรย์ไม่เคยมีเพื่อนหรือใครให้พูดคุยด้วยมากนัก นอกจากคนในครอบครัว       ทุกคนพบว่าเรย์เป็นคนตลกมาก ๆ ภายใต้ตัวตนของผู้ชายไร้หน้าที่น่าหวาดกลัวของคนทั้งเมือง ซ่อนผู้ชายซื่อ ๆ มีอารมณ์ขันเอาไว้ภายใน เขาอบอุ่นและเป็นมิตรมาก ๆ ในบางเสี้ยว เรื่องราวของเรย์ก็กลายเป็นความอบอุ่นใจ " วัยรุ่นและคนไร้หน้า มนุษย์เรืองแสงจับกลุ่มพูดคุยและดื่มเบียร์ด้วยกัน " แม้ตำนานด้านน่ากลัวจะยังมีอยู่ แต่ผู้คนก็ได้รับรู้ความจริงมากขึ้น เรย์ถูกมองว่าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ปีศาจหรือสิ่งน่ากลัวที่ใคร ๆ พยายามทำให้เขาเป็น