บอร์ด นิยาย เรื่องเล่า โพสท์โดย toombassวัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่บนเขามีลาตัวหนึ่งทุกๆ วันอยู่แต่ในโรงโม่เพื่อลากเครื่องโม่เป็นอยู่เช่นนี้วันแล้วปีเล่า ลาเริ่มที่จะเบื่อหน่ายกับชีวิต ที่ไร้ความตื่นเต้น ความเร้าใจมัน..ครุ่นคิดอยู่ทุกวี่วันว่าหากได้ออกไปดูโลกภายนอกไม่ต้องลากโม่ เป็นเช่นนั้นได้คงจะยอดเยี่ยมอย่างยิ่งไม่นาน..โอกาสก็มาถึงจนได้ พระภิกษุรูปหนึ่ง จูงมันลงเขาเพื่อบรรทุกของ มันดีใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลงมาถึงแล้ว พระภิกษุนำสิ่งของวางลงบนหลังของมัน จากนั้นเดินทางกลับวัดไม่คาดคิด ผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนเมื่อเห็นลาแล้ว ล้วนคุกเข่าลงกราบไหว้ แรกเริ่ม ลาสับสนงงงวยมาก ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ผู้คนจึงคุกเข่ากราบไหว้ตัวมัน มันรีบหลบฉากถอยหนีทว่า..เดินต่อไปเรื่อยๆ ผู้คนที่พบเจอมัน ก็ยังคุกเข่ากราบไหว้มันอยู่เช่นเดิมลา...เริ่มรู้สึกตัวเบาจะลอยแล้ว คิดในใจว่าที่แท้ผู้คนล้วนบูชาข้ายามที่มันเดินต่อไปเรื่อยๆ พบเจอผู้คนเดินสวนมา มันก็จะยืนอยู่กลางถนน ด้วยท่าทีที่หยิ่งผยอง รอรับการกราบไหว้จากผู้คนอย่างภาคภูมิใจเมื่อกลับมาถึงวัด ลา..คิดว่าตนเองมีฐานะที่สูงส่ง เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอมลากโม่อีกต่อไป พระภิกษุล้วนไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ปล่อยมันลงจากเขาไปลา..พึ่งจะลงจากเขา ก็เห็นผู้คนกลุ่มหนึ่งแต่ไกล กำลังตีกลองเดินมาทางที่มันอยู่ ลาคิดในใจว่า คนพวกนี้ ต้องมาต้อนรับมันอย่างแน่นอนเลยเดินก้าวย่างไปบนกลางถนนอย่างสง่าผ่าเผย ขบวนผู้คนกลุ่มนี้ เป็นขบวนแห่ขันหมาก กลับถูกลาตัวหนึ่งขวางทางผู้คนต่างโมโหโกรธอย่างยิ่งคว้าเอาไม้กระบองไล่ทุบตีลา..หวาดกลัวหนีกลับวัดด้วยความทุลักทุเล เมื่อถึงวัด เหลือเพียงลมหายใจที่รวยรินก่อนตาย.มันพูดกับพระภิกษุด้วยความโกรธอย่างยิ่งว่าแท้จริงแล้ว...จิตใจของมนุษย์ช่างน่ากลัวนัก ตอนลงเขาครั้งแรก ผู้คนล้วนคุกเข่ากราบไหว้ข้า ทว่า วันนี้กลับลงมือทุบตีข้า ด้วยความโหดเหี้ยมพระภิกษุ..ถอนหายใจแล้วพูดว่า เจ้าเป็นลาที่โง่เขลาอย่างแท้จริงวันนั้นผู้คนกราบไหว้นั้น เป็นพระพุทธรูปที่อยู่บนหลังของเจ้านั่นเองตระหนักรู้อะไรจากเรื่องลาโง่?ลาโง่??สิ่งที่น่าสงสารที่สุดของคนเรา ก็คือไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเองตลอดชีวิต บางครั้ง ขึ้นที่สูงแล้วหลงลืมตัวตน เพราะหลงเปลือกที่ห่อหุ้ม อาชีพ หรือ หน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติในสังคม บางครั้งก็เปรียบเหมือนนักแสดง เมื่อก้าวพ้นลงจากเวทีชีวิตที่คุณเคยแสดงบทบาทอะไรก่อนหน้านี้ เรา..ก็ไม่ใช่แล้ว     ทุกๆวัน พวกเราต่างก็มีกระจก ทว่า ยามที่พวกเราส่องกระจกเรากลับมองไม่เห็นความเป็นจริงที่อยู่ข้างใน ว่าเราคือใครเคยถามตัวเองหรือไม่ว่า เรารู้จักตัวเองหรือไม่?เราเป็นใคร? เคยมาจากใหน?เราลืมตัวตนที่มาของเราหรือไม่?จิตวิญญาณ ข้างในสิ่งที่เราเป็น ตอนเริ่มต้นมันถูกแปรเปลี่ยนไปด้วย ลาภ ยศ คำสรรเสริญ เยินยอ หรือไม่สิ่งเหล่านั้นมันทำให้เรา หลงลืม ที่มาหรือไม่ ความ กตัญญู เคารพ อ่อนน้อม ถ่อมตน ล้วนเป็นคุณสมบัติของผู้ที่เข้าใจว่า แท้จริงแล้วตัวตนข้างใน ของเรา เราคือ ใครอย่าให้ พระพุทธรูป บนหลังลาตัวนั้น ที่คนกราบใหว้ ทำให้เราเข้าใจหลงผิดเป็นเหมือนลาโง่ ตัวนั้นเพราะไม่ว่าเราจะสูงส่งยิ่งใหย่สักเพียงใหน ถึงวันหนึ่ง ทุกคนล้วนต้องกลับลงมาอยู่เท่าเทียมกันในธุลีดินยิ่งสูง ต้องยิ่ง อ่อนน้อมต้องยิ่งเข้าใจชีวิตยิ่งใด้รับ ต้องยิ่ง ให้กลับเข้มแข็งอ่อนโยนแต่อย่าอ่อนแอ รู้จักแพ้เป็น ชนะเป็นเรียนรู้ ข้ามผ่านเวลาขึ้นให้รู้ขึ้นอย่าหลงลืมตนเวลาลงให้รู้ลง มีสติหยั่งรู้ว่าเราคือใคร แค่เข้าใจชีวิตเพื่อจะใด้ไม่ต้องนั่งเสียใจที่กว่าจะรู้ก็เป็นวันสุดท้ายของชีวิต. เหมือนลาโง่ตัวนั้น