สือเพ่ยผู: สายลับนางงิ้ว ผู้หลอกสามีว่าเป็นหญิงมาเกือบ 20 ปี

บอร์ด ความรัก,สือเพ่ยผูสายลับนางงิ้วผู้หลอกสามีว่าเป็นหญิงมาเกือบปี ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย pututoyชายผู้แต่งเป็นหญิง หญิงที่ถูกบังคับให้เป็นชาย นางเอกงิ้ว ภรรยา สายลับ....ทั้งหมดนี้พัลวันกันอยู่ในคนคนเดียวผู้มีนามว่า สือเพ่ยผู 时佩璞 (1938 - 2009) เกิดที่ซานตงในครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่เป็นครู เขาไปเติบโตที่คุนหมิง และที่นี่เองที่เขาได้เรียนภาษาฝรั่งเศสจนใช้การได้สือเพ่ยผู ภาพนี้ถ่ายที่ปักกิ่ง ปี 1962 ก่อนพบกับบูร์สิโคต์สองปี ในระหว่างนั้นสือเพ่ยผูก็หัดงิ้วปักกิ่งที่ตัวเองชื่นชอบไปด้วย จนอายุ 17 ได้เป็นนักแสดงงิ้วตัวนาง จากนั้นซือเพ่ยผูก็ขยับขยายมาอยู่ที่ปักกิ่ง มีโอกาสได้เรียนงิ้วกับเหมยหลันฟาง ต่อมาสือไปเป็นครูสอนภาษาจีนให้กับภริยาทูตชาวต่างชาติที่มาประจำปักกิ่ง และนี่เอง เป็นจุดเริ่มต้นของปมพิศวาสพิศวงที่ทำให้โลกงงงวย!ปลายเดือนธันวาคม ปี 1964 ปักกิ่งตกอยู่ในความหนาวเหน็บเฉกเช่นทุกปี แต่ในสถานทูตฝรั่งเศสกลับอบอุ่น และอวลไปด้วยความสุขกับงานปาร์ตี้ฉลองคริสต์มาสที่นี่เอง ที่สือเพ่ยผู ผู้มีอายุ 26 ปี ได้พบกับ แบร์นาร์ด บูร์สิโคต์ Bernard Boursicot (เกิดปี 1944 ) ชายหนุ่มฝรั่งเศสวัย 20 ปี ที่เพิ่งพักการเรียนจากบ้านเกิด มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในสถานทูตฝรั่งเศส บูร์สิโคต์นั้นตอนยังเรียนอยู่ก็เคยมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนชายอยู่แล้ว เมื่อมาพบกับ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าสะสวยเกลี้ยงเกลา และท่วงทีอ่อนโยนราวอิสตรี ก็รู้สึกชอบในทันที ยิ่งเมื่อรู้ว่า สือเพ่ยผู เป็นนางเอกงิ้วปักกิ่งด้วย ยิ่งทำให้น่าสนใจเข้าไปอีก ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันในทันที และจากเพื่อนก็กลายเป็นคนรักจนวันหนึ่ง สือเพ่ยผู (แกล้ง)เผยความลับหนึ่งให้บูร์สิโคต์ฟัง สือบอกกับเขาว่า แท้จริงตัวเองเป็นหญิง แต่เพราะพ่ออยากมีลูกชาย จึงจับสือแต่งตัวเป็นชายมาตั้งแต่เด็กๆ(แต่จริงๆแล้วเป็นผู้ชายโดยกำเนิด) บูร์สิโคต์อุ้มตู้ตู้ ผู้ที่เขาคิดว่าเป็นลูกชายแท้ๆ มาตลอด จนความลับถูกเปิดเผยสือเพ่ยผูกับบูร์สิโคต์ลักลอบมีสัมพันธ์สวาทกันอยู่พักใหญ่ บูร์สิโคต์ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า เป็นฉากรักฉากสวาทที่รวดเร็วและมืดมิด ในคำให้การของสือเพ่ยผูเอง ก็บอกว่า เขาจะหนีบอวัยวะเพศของตัวเองซ่อนไว้ระหว่างต้นขา ทำให้เวลามองในความมืดสลัว จึงแยกแยะไม่ออกทั้งคู่มีสัมพันธ์กันเช่นนี้ จนทางการจีนล่วงรู้ แล้วอาศัยเรื่องนี้บีบบังคับให้บูร์สิโคต์กระทำการจารกรรมขายความลับของฝรั่งเศสให้ทางการจีน ระหว่างปี 1969 - 1972 บูร์สิโคต์ลักลอบนำเอกสารลับของทางการฝรั่งเศสไปให้กับจีนนับร้อยฉบับต่อมาเมื่อเขาไปประจำที่อูลาน บาตอร์ มองโกเลีย ก็ยังจารกรรมเผยความลับของฝรั่งเศสให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ประจำการที่จีนแล้ว บูร์สิโคต์ก็ยังแวะเวียนมาหาสือเพ่ยผูอยู่บ่อยครั้ง แล้วในการเยี่ยมเยียนคราวหนึ่ง เขาก็พบกับเด็กชายวัยสี่ขวบใบหน้าเป็นฝรั่ง สือกล่าวกับบูร์สิโคต์ว่า“นี่คือ สือตู้ตู้ 时度度 ลูกชายของคุณ” บูร์สิโคต์เชื่อโดยสนิทใจ เพราะดวงหน้าของเด็กน้อยช่างละม้ายเขายิ่งนัก​สือเพ่ยผู และ สือตู้ตู้ บุตรชาย ค.ศ. 1982 บูร์สิโคต์ทำเรื่องจนสามารถนำสือเพ่ยผู และตู้ตู้ บุตรชายไปอยู่ที่ปารีสด้วยกันได้ ที่ปารีส สือเพ่ยผู กลายเป็นดาวเด่นอยู่ในแวดวงศิลปิน เพราะความสามารถในการแสดงเป็นนางเอกงิ้วของสือ ตลอดเวลาแวดวงศิลปินในปารีสจะรับรู้ความเป็นสือเพ่ยผู ว่า “เป็นภริยาบูร์สิโคต์ และเป็นนักแสดงงิ้วปักกิ่งบทตัวนาง”จนกระทั่ง วันที่ 30 มิถุนายน 1983 แบร์นาร์ด บูร์สิโคต์ ถูกทางการฝรั่งเศสจับกุมในข้อหาจารกรรม หลังจากนั้นไม่กี่วัน สือเพ่ยผูก็ถูกจับตามมา และแล้วความลับทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยสือเพ่ยผูจำนนต่อการตรวจพิสูจน์ และสารภาพว่า เขาเป็นผู้ชายหาใช่สตรีอย่างที่กล่าวอ้าง สือตู้ตู้ เด็กชายที่อ้างว่าเป็นลูกที่เกิดจากบูร์สิโคต์ แท้จริงเป็นเด็กชายชาวอุยกูร์ที่ซื้อมาจากซินเกียง เพื่อตบตาบูร์สิโคต์ เรื่องราวทั้งหมดเป็นการจัดฉากโดยมีรัฐบาลจีนอยู่เบื้องหลัง! ข่าวนี้จากเรื่องช็อกกลายเป็นเรื่องโจ๊ก บูร์สิโคต์กลายเป็นเหมือนไอ้งั่งที่ไม่สามารถแยกแยะชาย-หญิงออกได้ เขาเคยพยายามฆ่าตัวตายหนีความอับอาย ด้วยการใช้ใบมีดโกนเชือดคอตัวเองในคุก แต่ถูกช่วยชีวิตไว้ได้ทันสือเพ่ยฝู และ บูร์สิโคต์ ถูกนำตัวขึ้นศาลพิจารณาคดีจารกรรม ทั้งคู่ถูกจำคุกอยู่หกปี แล้วถูกปล่อยตัวในปี 1987 ในโอกาสที่รื้อฟื้นสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศส สือเพ่ยผูอยู่ในปารีสต่อกับลูกชายสือตู้ตู้ และแสดงงิ้วปักกิ่งไปด้วย ทั้งสือและบูร์สิโคต์ปฏิเสธสื่อที่จะรื้อฟื้นเรื่องนี้อีกเรื่องของสือเพ่ยผู ถูก เดวิด เฮนรี หวง นักเขียนบทละครนำไปดัดแปลงเป็นละครบรอดเวย์เรื่อง M.Butterfly ก่อนจะถูกฮอลลีวูดนำไปสร้างภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันสือเพ่ยผูจบชีวิตอันพิศดารของเขาในปี 2009 ด้วยอายุ 70 ปี บูร์สิโคต์ที่ตอนนั้นมีอายุ 64 ปี กล่าวถึงการตายของสือว่า“เขา (สือ) ทำกับผมไว้มาก มันคงตลกถ้าจะต้องมาพูดว่าเสียใจ (กับการจากไปของสือ) ทุกอย่างล้างกระดานแล้ว ผมเป็นอิสระแล้ว”